จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยี และระบบต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ความสำคัญของมนุษย์ถูกมองข้ามไป ณ ปัจจุบันนี้ แนวโน้มของ Industry 5.0 : Human-Robot Co-Working หรือ Personalize Autonomous Manufacturing กำลังเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในอนาคต ซึ่งมนุษย์และหุ่นยนต์จะได้ทำงานร่วมงานมากขึ้น โดยที่มนุษย์จะรับผิดชอบในส่วนงานความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่ งานแรงงาน ที่ซ้ำซากและมีความเสี่ยงหุ่นยนต์จะเป็นผู้รับผิดชอบ
ภาพ : เปรียบเทียบระหว่าง Industry 4.0 กับ Industry 5.0
จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยี และระบบต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ความสำคัญของมนุษย์ถูกมองข้ามไป ณ ปัจจุบันนี้ แนวโน้มของ Industry 5.0 : Human-Robot Co-Working หรือ Personalize Autonomous Manufacturing กำลังเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในอนาคต ซึ่งมนุษย์และหุ่นยนต์จะได้ทำงานร่วมงานมากขึ้น โดยที่มนุษย์จะรับผิดชอบในส่วนงานความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่ งานแรงงาน ที่ซ้ำซากและมีความเสี่ยงหุ่นยนต์จะเป็นผู้รับผิดชอบ
ภาพ : เทคโนโลยีในยุค Industry 5.0
ในท้ายที่สุด Industry 5.0 จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีอุปกรณ์อัจฉริยะ และระบบอัตโนมัติฉอัจฉริยะ เกิดขึ้นร่วมกันทั้งหมดโดยทั้งสามส่วนจะต้องรวมเข้ากับโลกกายภาพ ผ่านการทำงานร่วมกับสติปัญญาของมนุษย์โดยมีความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิด ประสิทธิภาพ การผลิตที่ไร้ข้อผิดพลาด การสร้างของเสียให้น้อยที่สุด
แหล่งอ้างอิง : กระทรวงอุตสาหกรรม https://piu.ftpi.or.th/